ใจหายใจคว่ำ “ฟุตซอลหญิงไทย” เจอเหตุระทึกก่อนกลับ เผย 3 แผนเตรียมลุยฟุตซอลโลก พฤศจิกายนนี้
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทยเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เวลา 02.05 น. ด้วยเที่ยวบินของสายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์ส โดยมีการต่อเครื่องที่เมืองเซียะเหมิน หลังจากพลาดโอกาสคว้าแชมป์ฟุตซอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2025 (AFC Women’s Futsal Asian Cup 2025) จากการแพ้จุดโทษให้กับทีมชาติญี่ปุ่น
กำหนดการเดิมของฟุตซอลหญิงทีมชาติไทยมีกำหนดเวลาเดินทางถึง 00.50 น. แต่เกิดความล่าช้าจากการที่เครื่องบินดีเลย์ โดยการเดินทางกลับประเทศไทยในครั้งนี้ เริ่มต้นจากเที่ยวบินแรก (เที่ยวบิน MF 8140) จากเมืองโฮฮอตไปยังเมืองเซียะเหมิน ซึ่งระหว่างเส้นทางนั้น เครื่องบินต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างต่อเนื่อง
สภาพอากาศดังกล่าวส่งผลให้เครื่องบินเกิดการโคลงเคลงอย่างรุนแรง สร้างความตื่นตระหนกและทำให้ผู้โดยสาร โดยเฉพาะทัพฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ต้องหวาดเสียวไปตลอดการเดินทาง ก่อนที่ทั้งหมดจะเปลี่ยนเครื่องในเที่ยวบิน MF 843 เพื่อเดินทางจากเซียะเหมินมายังกรุงเทพฯ
ในค่ำคืนที่ล่วงเลยเข้าสู่ดึกดื่น บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิยังคงอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและตื่นเต้นจากกลุ่มครอบครัวและเพื่อนฝูงของทีมนักฟุตซอลหญิงไทย ทุกคนพร้อมใจมาต้อนรับเหล่าฮีโร่สาวผู้กลับมาจากการเดินทางอันยาวนาน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เมื่อทีมเดินทางถึงประเทศไทย อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ หรือ “บิ๊กป๋อม” อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงผลงานของนักกีฬาว่า ผลงานที่ยอดเยี่ยมและการทุ่มเทของทีมสร้างความประทับใจยิ่ง แม้ว่าสุดท้ายจะพลาดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดายด้วยการดวลจุดโทษ แต่ทุกคนทำได้อย่างเต็มที่แล้ว สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ บิ๊กป๋อมเผยว่าจะรอผลการจับสลากแบ่งสาย โดยทีมชาติไทยอยู่ในโถที่ 2 ซึ่งแผนการเตรียมทีมจะถูกกำหนดตามผลการจับสลาก เพื่อตอบรับกับความท้าทายในรอบสุดท้ายต่อไป
หลังจากเดินทางกลับ ทีมงานจะเร่งประชุมเพื่อวางแผนและเริ่มต้นการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลกในวันที่ 21 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2568 การวิเคราะห์ผลการจับสลากจะแสดงให้เห็นถึงทิศทางแผนการซ้อม เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับคู่แข่ง กฤษดา สัจกุล ผู้จัดการทีม ได้กล่าวถึงแผนงานว่า การเตรียมทีมครั้งนี้จะต้องสมบูรณ์แบบที่สุด อาจมีการนำทีมไปเก็บตัวซ้อมในต่างประเทศเพื่อสร้างประสบการณ์ แม้จะต้องบริหารงบประมาณอย่างระมัดระวัง แต่เป้าหมายหลักคือการใช้ทุนที่มีให้เกิดผลลัพธ์ที่คุ้มค่ายิ่ง ด้านธนาธร สันทนาประสิทธิ์ หรือโค้ชโอ ได้เล่าถึงเบื้องหลังการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียว่า การแข่งขันแต่ละนัดเต็มไปด้วยความกดดัน เนื่องจากเป้าหมายหลักคือการคว้าโควตาสู่เวทีชิงแชมป์โลก ซึ่งในท้ายที่สุด ทีมก็ทำสำเร็จด้วยความร่วมมือและแรงสนับสนุนจากนักกีฬาทุกคน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันระดับโลกยังคงต้องปรับปรุงรูปแบบการเล่นและเติมเต็มจุดอ่อนที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสบนเวทีที่ใหญ่ขึ้น
หลังจากนี้ ทีมจะเข้าสู่ขั้นตอนการประชุมเพื่อวางแผนเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเนื่อง เตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานของทีมให้ก้าวไกลบนเวทีระดับนานาชาติ