TOYOTA 4RUNNER 2025 กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมท้าทายทุกเส้นทาง
โตโยต้า TOYOTA 4RUNNER 2025 (โตโยตา โฟร์รันเนอร์) ชื่อนี้ได้หวนคืนสู่ตลาดอีกครั้ง หลังหายไปยาวนานกว่า 14 ปี ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวเกี่ยวกับแผนการผลิตในปี 2025 แต่ล่าสุด 4Runner ได้เปิดตัวเจเนอเรชันที่ 6 อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีนี้ โดยมาในรหัสตัวถัง N410 มาพร้อมดีไซน์ที่ดูดุดัน แข็งแกร่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบช่วยเหลือมากมายที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัย ผลิตที่โรงงาน TAHARA PLANT ในญี่ปุ่น และเริ่มส่งออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปลายปี 2024 รุ่นใหม่นี้ใช้โครงสร้างแพลตฟอร์ม TNGA-F ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับ Tacoma (ตาโกมา) เวอร์ชันใหม่ ที่หลายคนมองว่าเปรียบเสมือนพี่น้องในรูปแบบรถปิกอัพ โดยยังมีการใช้งานอะไหล่ร่วมกันในหลายจุด รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสาร ด้านดีไซน์ภายนอก มาในลุคทรงกล่องเหลี่ยม ให้ความรู้สึกแข็งแรง อเนกประสงค์ และพร้อมลุย โดยเฉพาะรุ่น Trailhunter (ทเรลฮันเตอร์) ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมยางมัลติเทอร์เรนขนาด 33 นิ้ว ชุดยกสูงด้านหน้า 2 นิ้ว และด้านหลัง 1.5 นิ้ว พร้อมโช้คอัพจาก Old Man Emu นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งส่วนต่างๆ จากโรงงานให้เหมาะกับการใช้งานแบบออฟโรดอย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในห้องโดยสารออกแบบให้เรียบง่าย ทันสมัย และใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย การตกแต่งเน้นเส้นสายเหลี่ยมสันที่ชัดเจน พร้อมพวงมาลัยแบบท้ายตัด จออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ APPLE CARPLAY และ ANDROID AUTO แบบไร้สาย นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอคลัสเตอร์เกจขนาด 7 นิ้ว และกระจกบานฝาท้ายที่สามารถเลื่อนลงได้ เบาะที่นั่งแถวที่สองสามารถพับเอนลง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระตามความต้องการ
ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 4 สูบ I-FORCE ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 278 แรงม้า พร้อมแรงบิด 43.8 กก.-ม. และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด I-FORCE MAX HYBRID ขนาด 2.4 ลิตร 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้าเสริม 48 แรงม้า ให้กำลังรวมถึง 326 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 64.2 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ DIRECT-SHIFT แบบ 8 สปีด ซึ่งพัฒนามาจากพื้นฐานของพิคอัพรุ่น TACOMA และมีสมรรถนะการลากจูงสูงสุดถึง 5,000 ปอนด์
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ พร้อมคอยล์สปริง รองรับทุกสภาพถนนได้อย่างมั่นคง ในส่วนของระบบขับเคลื่อน มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อ, 4 ล้อพาร์ทไทม์ และ 4 ล้อฟูลไทม์ ที่มาพร้อมกับเฟืองท้ายแบบทอร์เซน ลิมิเต็ด สลิป ซึ่งทำงานโดยอัตโนมัติ (AUTO LSD) ขณะที่ชุดทรานสเฟอร์เคสมีอัตราทดให้เลือกทั้งแบบไฮและโลว์ พร้อมด้วยระบบช่วยการยึดเกาะ TOYOTA’S ACTIVE TRACTION CONTROL (A-TRAC) สำหรับพาคุณลุยในทุกเส้นทางที่ท้าทาย ระบบความปลอดภัยครบครันด้วย TOYOTA SAFETY SENSE 3.0 ประกอบด้วยฟังก์ชันสำคัญ เช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉิน ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร ระบบตรวจจับคนเดินถนน และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอย่างรอบด้าน อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ ยังไม่มีแผนนำรุ่นนี้เข้าจำหน่าย ผู้ที่สนใจก็คงต้องพึ่งผู้นำเข้าอิสระ เพื่อรับเอสยูวีที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะและมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ทันสมัย ซึ่งผ่านการปรับจูนมาอย่างดีจากโรงงานผู้ผลิต นอกจากนี้ ยังมีชุดแต่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ 4RUNNER อย่างหลากหลาย ถือได้ว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นจาก TOYOTA ที่ได้รับความนิยมและการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้รักการผจญภัยทั่วโลก